พรีเวดดิ้งญี่ปุ่น Pre-Wedding in Japan ด้วยตัวเอง
1876 จำนวนผู้เข้าชม |
แMm P R E - W E D D I N G
ใครที่มีแพลนจะแต่งงาน ก็คงคิดแล้วคิดอีกกับภาพถ่ายบ่าวสาวที่จะใช้ในงานแต่งงาน
ดูรีวิวจนตาแฉะ หาราคาและสิ่งที่ต้องการเหมือนงมไหแม่นาค ใช่ค่ะ เราก็เป็น!
เราไม่อยากให้ภาพมันดูแข็งจนเกินไป แบบเป๊ะเหมือนสตูดิโอ (ความชอบส่วนบุคคลนะคะ) ย้ำ**
ใครที่มีแพลนจะแต่งงาน ก็คงคิดแล้วคิดอีกกับภาพถ่ายบ่าวสาวที่จะใช้ในงานแต่งงาน
ดูรีวิวจนตาแฉะ หาราคาและสิ่งที่ต้องการเหมือนงมไหแม่นาค ใช่ค่ะ เราก็เป็น!
เราไม่อยากให้ภาพมันดูแข็งจนเกินไป แบบเป๊ะเหมือนสตูดิโอ (ความชอบส่วนบุคคลนะคะ) ย้ำ**
+ กับเจ้าบ่าวเกร็งไม่เป็นตัวเองถ้าเป็นคนแปลกหน้ามาถ่ายภาพ เราก็คิดว่างั้นไปเที่ยวแล้วก็ตั้งเวลาถ่ายรูปเอาดีไหม ค่อยเอามาแต่ง Photoshop เอาก็เลย Say YES! ลุย
เราใช้กล้อง FUJI X-A2 + ขาตั้งกล้อง
เราใช้กล้อง FUJI X-A2 + ขาตั้งกล้อง
เริ่มต้นจาก ''งบ'' 555
1. หาสถานที่ >> ประเทศ >> เมือง
2. อากาศ >> ชุด ที่คล่องตัวไม่พะรุงพะรังเพราะเดินเยอะ
3. ภาพที่อยากได้ มุมที่อยากได้ เซฟรูป
4. แพลนการเดินทาง
5. เตรียมพร็อพถ่ายรูป เวลติดผมเจ้าสาว หรือใดๆ
หลังจากเตรียมทุกอย่างแล้วก็จองตั๋ว จองโรงแรมตามแพลนที่วางไว้แล้วไปกันเลย
แพลนของเราคือ โอซาก้า > ฟูจิ > โตเกียว
1. หาสถานที่ >> ประเทศ >> เมือง
2. อากาศ >> ชุด ที่คล่องตัวไม่พะรุงพะรังเพราะเดินเยอะ
3. ภาพที่อยากได้ มุมที่อยากได้ เซฟรูป
4. แพลนการเดินทาง
5. เตรียมพร็อพถ่ายรูป เวลติดผมเจ้าสาว หรือใดๆ
หลังจากเตรียมทุกอย่างแล้วก็จองตั๋ว จองโรงแรมตามแพลนที่วางไว้แล้วไปกันเลย
แพลนของเราคือ โอซาก้า > ฟูจิ > โตเกียว
START : Universal Studio
จะบอกทุกคนว่าอย่าหาทำ เที่ยววันแรกแบบหนัก ๆ เพราะว่ามู้ดมันจะง่วงมากที่สุด นั่งเครื่องบินถึงโอซาก้า สนามบินคันไซ KIX เช้าตรู่ ฝากกระเป๋าที่สถานีที่สวนสนุกและไปเล่นเครื่องเล่น "ไอ้แดงเอ็งคือนักสู้" สุดๆไปเลย หน้ายม หน้าง่วง เก็บบรรยากาศอย่างเดียว 555555
หมดวันไปกับความสนุก ที่ไม่ได้รูปจ้ะ
หมดวันไปกับความสนุก ที่ไม่ได้รูปจ้ะ
หลังจากนั้นเราพักแถวชินไซบาชิ ตื่นเช้ามาก็มุ่งหน้าสู่เกียวโต ตั้งใจอยากได้ภาพเบื้องหลังเป็นบ้านเรือนเก่าๆ วัดญี่ปุ่นที่มีเสน่ห์ และธรรมชาติที่สวยงาม
ต้องบอกว่าแพลนไม่ได้เยอะ เน้นไปดูหน้างานเอา 55555 อย่าเอาเยี่ยงอย่าง
Tōfuku-ji Temple วัดโทฟุคุจิ
เป็นวัดเซ็น สำนักรินไซ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเกียวโต (Kyoto) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1236 ทว่าตัวอาคารดั้งเดิมได้ถูกไฟเผาทำลายไป และได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 15 โดยมีสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญคือ Sammon Gate ประตูไม้ขนาดใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ
ช่วงท่องเที่ยวที่นิยมของวัดโทฟุคุจิแห่งนี้คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตอนปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ใบเมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงส้มอย่างสวยงาม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมในญี่ปุ่น
เป็นวัดเซ็น สำนักรินไซ ตั้งอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของเมืองเกียวโต (Kyoto) สร้างขึ้นในปี ค.ศ. 1236 ทว่าตัวอาคารดั้งเดิมได้ถูกไฟเผาทำลายไป และได้มีการสร้างขึ้นใหม่ในช่วงศตวรรษที่ 15 โดยมีสิ่งปลูกสร้างที่สำคัญคือ Sammon Gate ประตูไม้ขนาดใหญ่ที่ได้รับการขึ้นทะเบียนเป็นสมบัติแห่งชาติ
ช่วงท่องเที่ยวที่นิยมของวัดโทฟุคุจิแห่งนี้คือช่วงฤดูใบไม้ร่วง ตอนปลายเดือนพฤศจิกายนถึงต้นเดือนธันวาคม ซึ่งเป็นช่วงที่ใบเมเปิ้ลกำลังเปลี่ยนจากสีเขียวเป็นสีแดงส้มอย่างสวยงาม ถือได้ว่าเป็นหนึ่งจุดชมใบไม้เปลี่ยนสียอดนิยมในญี่ปุ่น
วัดโทฟุคุจิ (Tofukuji Temple) นั้นอยู่ห่างจากศาลเจ้าฟุชิมิ อินาริ ไทฉะ (Fushimi Inari Taisha) ประมาณ 1 กิโลเมตร ถ้าเดินมาก็ใช้เวลาประมาณ 15 นาทีค่ะ
ริมคลองญี่ปุ่นจะมีกำแพงใบไม้สีส้มๆ ก็เลยเอาสักหน่อยค่ะ
สวนป่าไผ่ – Arashiyama Bamboo Groves
ตั้งอยู่ที่อาราชิยาม่าในเกียวโต นับเป็นสถานที่ท่องเที่ยวทางธรรมชาติที่ดังมากๆ ของที่นี่ เชื่อว่าถ้าพูดถึงป่าไผ่ปุ๊บก็มีที่นี่แหละที่เป็นไวรัลในโลกโซเชี่ยล มีร้านขายของที่ระลึกที่เน้นสินค้าที่ทำจากต้นไผ่และของท้องถิ่นเป็นหลักไม่ว่าจะเป็น ตะกร้าไม้ไผ่, ถ้วย, กล่องใส่ของ หรือเสื้อเสื้อสานจากไผ่ ไว้ให้ได้ช็อปปิ้งกันเบาๆเป็นของฝาก ตอนที่เราไปถึงค่อนข้างเย็นแล้ว
สะพานโทเง็ตสึเคียว (Togetsukyo Bridge)
หลายๆคนรู้จักกันในชื่อ Moon Crossing Bridge” จากตัวเมืองเมื่อข้างสะพานไปจะเป็นเหมือนเกาะเล็กๆที่อยู่กลางแม่น้ำ ภายในเกาะเป็นร้านขายอาหาร ขายสินค้า ผู้คนนิยมมาเดินเล่นเป็นจำนวนมากโดยเฉพาะช่วงเทศกาลฮานามิหรือฤดูชมซากุระ ถือเป็นสะพานที่ทรงคุณค่าทางประวัติศาสตร์มากๆเลยเชียวล่ะค่ะ เนื่องจากถูกสร้างขึ้นตั้งแต่ในสมัยเฮอันประมาณในช่วง ค.ศ. 794 – ค.ศ. 1185 หากก็มีการบูรณะซ่อมแซมตัวสะพานอยู่เรื่อยๆจนมาถึงในปัจจุบัน เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งสัญลักษณ์สำคัญของเมืองอาราชิยาม่าก็ว่าได้ค่ะ ทั้งด้วยความเป็นมาอันแสนยาวนานรวมไปถึงความงดงามของสะพานที่มีฉากหลังที่สุดยอดสุดๆ จากที่ด้านหลังจะเห็นภูเขาสูงใหญ่และส่วนด้านล่างเป็นแม่น้ำที่ทั้งสองฝั่งมีแนบต้นซากุระเรียงรายเรียบแม่น้ำไปเรื่อยๆ บอกเลยว่าช่วงฤดูใบไม้ผลินี่สวยพีคขั้นเทพ เรียกได้ว่าเป็นอีกหนึ่งจุดชมซากุระยอดนิยมเลยล่ะค่ะ
วันต่อมาเราก็นั่ง ชินคันเซ็น (Shinkansen) ชินคันเซ็น (Shinkansen) รถไฟความเร็วสูง มาลงกลางทางระหว่างโอซาก้า - โตเกียว ซึ่งมันนานมากแล้วทุกคนขออภัยที่จำสถานีไม่ได้ :(
แล้วก็นั่งรถโดยสารประจำทางญี่ปุ่น ใช่จ้านั่งรถไปลง รถไฟฟ้าสถานี Kawaguchiko
และติดต่อให้รถมารับที่สถานีเพื่อไปเช็คอินโรงแรมค่ะ
เราพักกันที่ โรงแรมมิฟูจิเอ็น (Hotel Mifujien) 1 คืน
1 X ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น วิวภูเขาฟูจิ ปลอดบุหรี่ 1 ห้อง x 1 คืนTHB 5,666.38
แล้วก็นั่งรถโดยสารประจำทางญี่ปุ่น ใช่จ้านั่งรถไปลง รถไฟฟ้าสถานี Kawaguchiko
และติดต่อให้รถมารับที่สถานีเพื่อไปเช็คอินโรงแรมค่ะ
เราพักกันที่ โรงแรมมิฟูจิเอ็น (Hotel Mifujien) 1 คืน
1 X ห้องพักสไตล์ญี่ปุ่น วิวภูเขาฟูจิ ปลอดบุหรี่ 1 ห้อง x 1 คืนTHB 5,666.38
และเราก็ถือเวลติดผมเจ้าสาว และกระโปรงฟูฟ่องออกไปเดินหาทำเลถ่ายภาพกัน คนก็มองนิดหน่อยแหละ 55555 แต่เค้าก็ยิ้มๆ นะ (คิดเอาว่า....อีคู่นี้บ้าหรือเปล่าหนาวจะตายมาถ่ายพรีเวดดิ้ง)
และนี่คือผลงาน
และนี่คือผลงาน
คือบรรยากาศโคตรจะดีมากทุกคน เรามาตอนแรกไม่เห็นฟูจิซัง เพราะว่าหิมะตกก่อนที่เราจะมาถึงวันเดียวทุกคน ว้าวซ่าไหม โชคดีมากที่ท่านออกมาเป็นสักขานพยู เอ้ย!! สักขีพะยู เอ้ย!! สักขีพยาน
อิหยังวะ 5555
เราได้ภาพที่ใช้รูปนี้บ่อยที่สุดละในทุกๆ อย่างเพื่อแสดงว่าฉันกำลังจะแต่งงานนะคะคุณข๋าาา
เป็นภาพที่คิดว่าไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายมุมนี้ แต่กลับประทับใจที่สุด และกลางคืนอันหนาวเหน็บหิมะก็ตกลงมาอีกค่ะทุกคน สวยมากกก สวยสะกด ไม่อยากกลับเข้าไปโตเกียวเลยบอกตรงๆ
และเช้ามาก็อีกสักนิด ถือว่าเราพกเวลติดกระเป๋าไว้ซะเลยละกัน อิอิ
เป็นภาพที่คิดว่าไม่ได้ตั้งใจจะถ่ายมุมนี้ แต่กลับประทับใจที่สุด และกลางคืนอันหนาวเหน็บหิมะก็ตกลงมาอีกค่ะทุกคน สวยมากกก สวยสะกด ไม่อยากกลับเข้าไปโตเกียวเลยบอกตรงๆ
และเช้ามาก็อีกสักนิด ถือว่าเราพกเวลติดกระเป๋าไว้ซะเลยละกัน อิอิ
หลังจากนั้นรถที่โรงแรมก็ออกไปส่งเราที่สถานีรถไฟ Kawaguchiko และซื้อตั๋วมุ่งหน้าสู่ โตเกียว
และโรงแรมที่เราพักที่โตเกียวคือ โรงแรมซาร์โดนิกซ์ อูเอโนะ (Hotel Sardonyx Ueno)
1 ห้อง x 2 คืน THB 6,739.62
หลังจากกลับมาเราคือกิน ช้อปปิ้ง กิน ช้อปปิ้ง 5555555
และโรงแรมที่เราพักที่โตเกียวคือ โรงแรมซาร์โดนิกซ์ อูเอโนะ (Hotel Sardonyx Ueno)
1 ห้อง x 2 คืน THB 6,739.62
หลังจากกลับมาเราคือกิน ช้อปปิ้ง กิน ช้อปปิ้ง 5555555
สวนสาธารณะอุเอโนะ (ueno park)
และวันที่เราไปตรงกับ Merry Christmas จ้า
มิ้งก็คือไม่เข้าในความ 1 ทริปต้องไปสวนสนุกทั้ง 2 เมืองและนางไม่อินใด ๆ 55555555
ไม่ได้จะไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ฉันอยากไปเฉยๆ อยากไป ก็คือต้องได้ไป แล้วดูหน้านาง
มิ้งก็คือไม่เข้าในความ 1 ทริปต้องไปสวนสนุกทั้ง 2 เมืองและนางไม่อินใด ๆ 55555555
ไม่ได้จะไปถ่ายพรีเวดดิ้ง ฉันอยากไปเฉยๆ อยากไป ก็คือต้องได้ไป แล้วดูหน้านาง
สุดท้ายเราแค่มีไอเดียว่าถ้าเราเอาเงิน 1 ก้อนเพื่อถ่ายรูปในวันงานแต่งงาน เราเอาเงิน 1 ก้อนนี้ไปเที่ยวกันดีกว่าแล้วรูปก็แค่เอามันมาใช้ในงานแต่งงานของเราสองคน แต่มันเป็นรูปที่เราได้ใช้ชีวิตร่วมกันมาแล้วจริงๆ มันเห็นแล้วมีความทรงจำในนั้นเสมอ :)
Powered by
MakeWebEasy.com