ติดเกาะช้าง 3 วัน 2 คืน นอนฟินลืม ที่ SEA VIEW KOH CHANG จ.ตราด

ระหว่างเขา เรา ทะเล เธอชอบอะไรมากกว่ากัน?

สเตตัสยอดฮิต เป็นคำถามที่ไม่จำเป็นต้องตอบเลยยย เพราะถ้าเธอชอบเขา คลั่งเรา แต่ก็รักทะเลสุดๆ เธอก็ไม่จำเป็นต้องเลือกค่าาา เธอก็แค่แพ็คกระเป๋า แล้วปักหมุดไป
“เกาะช้าง” ได้เลย แล้วเธอจะได้สัมผัสกับทุกอย่างที่เธอชอบ... โดยเฉพาะเรา! ฮ่าๆๆ

ใช่แล้วค่าาา เพราะความที่ชอบทั้งเขา ทั้งทะเล ทริปนี้ของเราทั้งคู่ เลยมาตกลงปลงใจกันที่ เกาะช้าง ที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นเกาะขนาดใหญ่อันดับ 2 ของประเทศ รองจากภูเก็ต เกาะที่ถูกพูดถึงกันว่ายังคงมีความเป็นธรรมชาติ และอุดมสมบูรณ์สุดๆ ทั้งป่าหนา เขียวชอุ่ม ทั้งน้ำตกที่น้ำไหลทั้งปี ทะเลสวย น้ำใส  ไหนจะที่กิน ที่เที่ยวอีกเพียบ แถมที่นี่ยังมีชุมชนชาวประมงอาศัยอยู่กันหลายหมู่บ้าน ให้เราได้สัมผัสกับวิถีชีวิตที่เรียบง่าย เรียกว่ามาที่เดียวครบจบประสบการณ์ท่องเที่ยวแน่นอน

นอนฟินลืม กลมกลืนกับธรรมชาติที่
Sea View Koh Chang

“ซีวิว เกาะช้าง” เป็นที่แรกที่เราปักหมุดในการมาเที่ยวเกาะครั้งนี้ หลังจากที่เราวางแผนการเดินทางไว้ก่อนแล้ว ทริปนี้ของเราเลยเป็นการมาพักผ่อนแบบชิลๆ 3 วัน 2 คืน ในช่วงปลายร้อน ต้นฝน (ที่ยังร้อนมากๆ อยู่ ฮ่าๆๆ) เช้าวันแรก นับเป็นวันเดินทางซะส่วนใหญ่ เราเริ่มขับรถออกจากกรุงเทพฯ ตอนเช้า ใช้เวลาเดินทางราวๆ  5 - 6 ชั่วโมง ถึงท่าเรือเฟอรี่อ่าวธรรมชาติ ที่นี่เราจะขับรถขึ้นเรือเฟอรี่ เพื่อข้ามไปเกาะช้างกัน โดยใช้เวลาข้ามฟาก 30 นาที ซึ่งตารางเรือจะออกทุกชั่วโมง เริ่มตั้งแต่รอบแรก(ทั้งไป/กลับ) 06.45 น. รอบสุดท้าย 18.30 น. และมีค่าข้ามฟากคนละ 80 บาท/คน/เที่ยว ค่ารถยนต์ 120 บาท/คน/เที่ยว แต่ถ้าใครมีมอเตอร์ไซค์มา ก็คิดตามขนาดคัน 40-80 บาท/คน/เที่ยว(Update มี.ค.65) งานนี้ใครมาถึงก่อนก็ได้ขึ้นเรือก่อน ใครมาทีหลังก็ต่อคิวยาวไป แนะนำว่าถ้ามาเที่ยวช่วงวันหยุดยาวคนเยอะ เผื่อเวลามารอคิวขึ้นเรือกันด้วยน้าาาา

และแล้วเราก็มาถึงเกาะช้างกันแล้วทุกคนนน แต่เราต้องขับรถไปต่อที่หาดไก่แบ้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของซีวิว เกาะช้าง ที่เราจะไปพักนั่นเอง เส้นทางของเกาะเป็นถนนเลนสวน ค่อนข้างชัน ขับยากกันนิดนึง ตรงนี้ขับช้าๆ ด้วยความระมัดระวังนะเธอออ(บอกแฟน ฮ่าๆ) แต่แล้วเราก็ถึงโรงแรมกันโดยสวัสดิภาพค่ะ มาถึงก็บ่ายแก่ๆ แล้ว เรารีบไปเช็คอินก่อน ด้วยความที่อยากชิลกันเต็มที่ แล้วโรงแรมก็แสนน่ารักนอกจากจะมี Welcome Drink มารอต้อนรับ ยังมีสมาชิกตัวน้อยๆ เป็นน้อนไก่ตัวอ้วนๆ มาเดินต้อนรับเราหลายตัวเลยด้วย

ห้องสวย วิวทะเล บรรยากาศดี สิ่งอำนวยความสะดวกครบ

ตลอด 2 วันนี้ เราจะนอนกันที่ห้อง Deluxe Beachfront Room ห้องชั้นล่างติดชายหาด เดินไปไม่กี่ก้าวก็ถึงชายหาด(ส่วนตัว) ทรายขาวละเอียด กับน้ำทะเลใสๆ ห้องนี้มีขนาดกำลังดี 50 ตร.ม. โล่งสบายสำหรับ 2 คน กับบรรยากาศการตกแต่งสไตล์รีสอร์ท ผสมผสานความเป็นไทยโมเดิร์น ด้วยวัสดุจากไม้ ภายในสีขาวคลีน สบายตา เหมาะกับการทิ้งตัวพักผ่อนอย่างกลมกลืนกับธรรมชาติที่รายล้อมภายนอก

แต่ก่อนจะพาออกไปชมธรรมชาติข้างนอก ต้องขออวดบรรยากาศในห้องที่แสนโรแมนติกนี้ก่อน

"ความฟินของห้องนี้นอกจากจะมองเห็นวิวทะเล และได้ยินเสียงคลื่นซัดฝั่งแบบ HD แล้ว ต้องกรี๊ดให้กับอ่างจากุซซี่กลางห้องเค้านะ"

แถมกระจกใสยังทำให้บรรยากาศห้องกว้าง โล่ง และรู้สึกเป็นหนึ่งเดียวกับท้องทะเลไปอีก คนมาเป็นคู่อย่างเราคือถูกใจมากกก แต่สำหรับคู่เพื่อนก็ไม่ต้องเขินอาย เพราะเค้ามีม่านไว้ให้ดึงปิดกั้นโซนห้องน้ำกับห้องนอนได้ ส่วนห้องน้ำก็มีแบ่งโซนเปียกและแห้งไว้ให้เรียบร้อย

มาดูกันที่สิ่งอำนวยความสะดวกในห้อง เค้าก็มีมาให้แบบครบจบ ตั้งแต่มินิบาร์ ชุดของใช้(Amenities set) ไปจนถึงBath Bomb(มีค่าใช้จ่าย) ให้ตีฟองนุ่มๆ ถ่ายรูปแบบฟินๆ เกร๋ๆ อ่ะแกรรร เอาเป็นว่าสาวๆ ยัดแค่เสื้อผ้าสวยๆ ปังๆ ใส่กระเป๋ามาก็พอ

ทำเลสุดปัง! หลังล้อมเขา หน้าวิวทะเลสุดตา บนหาดส่วนตัว

อ่ะ จบการพรีเซนต์ห้องนอนแล้ว  ได้เวลาออกไปเดินชมนกชมไม้ข้างนอกบ้าง(จริงๆ ไปหามุมถ่ายรูป ฮ่าๆๆ) เริ่มจากหน้าห้องเราก่อนเลย มองไปทางไหนก็เห็นแต่ต้นไม้แทรกซึมอยู่ทุกระยะสายตา มันเขียวสดสบายตาไปหมด อากาศก็เย็นสดชื่น มีความชื้นๆ นิดๆ ตามสไตล์โรงแรมบนเขา แบบที่สูดหายใจเข้าเต็มปอดแล้วรู้สึกได้ถึงอากาศดีๆ (ที่แตกต่างจากกรุงเทพฯ)

เราใช้เวลาสักพัก เดินเล่น สำรวจไปรอบโรงแรม ที่นี่ถือเป็นโรงแรมหรูขนาดใหญ่แห่งหนึ่งของเกาะเลย ด้านหลังเป็นภูเขาลูกโต มองไปเห็นแต่สีเขียวสวย ด้านหน้าเป็นน้ำทะเลสีเขียวฟ้ามรกต กว้างสุดลูกตา ห้องพักมีหลาย Type หลายโซนให้เลือก ไล่ระดับตั้งแต่ชั้นล่างหน้าหาดขึ้นไปบนเขา ใครที่พักโซนบนเขาสามารถนั่งเคเบิ้ล คาร์(กระเช้าลอยฟ้า) ขึ้นไป หรือให้พี่ๆ พนักงานขับรถขึ้นไปส่งก็ได้ อีกอย่างห้องพักที่นี่วิวทะเลทุกห้อง สมชื่อโรงแรมซีวิวเลยค่า

กิจกรรมล้านแปด จะซุกตัวในห้องทั้งวันก็ชิล จะออกไปลุยข้างนอกก็มันส์ 

ส่วนโซนอื่นๆ ก็จะมีสระว่ายน้ำ 2 จุด ที่โซน Beachfront กับโซนข้างบน และยังมีฟิตเนส สปา Kid’s Club ห้องอาหาร Lighthouse สำหรับทานอาหารเช้า(แบบบุฟเฟต์) วิวทะเลมุมสูง แบบ panorama ซึ่งอาหารเช้าขอบอกว่าอร่อย หลากหลาย ไลน์อาหารเยอะ แต่ฟินสุดคือขนมครก กรอบนอกนุ่มใน ทานร้อนๆ

แล้วยังมีห้องอาหาร Sunset Beach สำหรับอาหารกลางวันและอาหารเย็นริมทะเล แอบกระซิบว่าทางโรงแรมสามารถจัดดินเนอร์สุดโรแมนติกริมทะเลให้ได้ด้วยนะ หรือใครอยากจัดหมูกระทะริมหาดก็ได้อยู่ นอกจากนี้โรงแรมยังมีเวิร์กชอปทำพิซซ่า กับกิจกรรมเพ้นท์ผ้าบาติกชิลๆ ด้วย ซึ่งทั้งหมดนี้ต้องโทรจองกับทางโรงแรมก่อนค่า

แต่สำหรับเราขอจัดกิจกรรมแบบชิลๆ ไม่ต้องใช้พลังงานเยอะ ก็พายเรือคายัคไปเกาะมันในเลยสิคะ ฮ่าๆๆ ไม่ต้องตกใจว่าพายเรือข้ามเกาะมันชิลยังไง เพราะมันใกล้มาก พายเรือ 10 นาทีก็ถึงแล้ว(ค่าเช่าคายัค 180/ชม./ลำ) แวะปิกนิกสวยๆ ที่เกาะอีก 1 กรุบ เราจะใช้เวลาที่เกาะนานแค่ไหนก็ได้ แต่ต้องกลับฝั่งก่อน 6 โมงเย็นนะ

ไฮไลท์ของเกาะนี้อยากจะบอกเลยว่าใครที่มาช่วงเดือนมิถุนายน - กันยายนของทุกปี มีโอกาสได้เห็นทะเลแหวก แบบที่เราเดินเท้าข้ามจากเกาะช้าง มาเกาะมันในได้เลย แต่อาจต้องลุ้นกันหน่อยเพราะเป็นปรากฏการณ์ธรรมชาติที่ไม่ได้เกิดขึ้นทุกวัน ขึ้นอยู่กับสภาพอากาศในวันนั้นด้วย ทางที่ดีสอบถามหรืออัปเดตกับทางโรงแรมก่อนน้าาา

กิจกรรมในโรงแรมไม่ได้มีแค่นี้นะ ยังมีดำน้ำตื้น พายPaddle Board แพคเกจล่องเรือยอร์ช แต่เราเก็บไม่หมดจริงๆ ตามแพลนเราเลือกออกไปใช้เวลาข้างนอกบ้าง มื้อเย็นทั้ง 2 วัน เราออกไปทานร้านอาหารซีฟู้ด ปักหมุดไปที่ร้านเกาะช้างซีฟู้ด ร้านดังรีวิวแน่น ไฮไลท์ของที่นี่คือตกกลางคืนเค้ามีโชว์ควงกระบองไฟ ตื่นตาตื่นใจ อาหารทะเลดี สด อร่อย

อีกร้านไอยรา ซีฟู้ด ร้านนี้ก็ฮอตฮิต รีวิวเยอะไม่แพ้กันค่ะ อาหารอร่อย ติดทะเล บรรยากาศดี ดูพระอาทิตย์ตกคือสวยฟินมาก

ร้านไอยรา ซีฟู้ด

      ที่อยู่: 19/5 ม.4 ต.เกาะช้าง อ.เกาะช้าง เกาะช้าง ตราด 23170 
 
    โทรศัพท์: 081 751 0058

เกาะสวรรค์แห่งทะเลตราด ที่ทุกคนต้องห้ามพลาด!

นอกจากบนเกาะช้างแล้ว ครั้งนี้เรายังมีโอกาสได้ออกไปเที่ยวเกาะอื่นด้วย เราจองทริปโปรแกรมครึ่งวัน ไปเกาะขามกับเกาะหวาย เกาะที่ขึ้นชื่อว่าสวยอันดับต้นๆ ของจังหวัดตราด

ที่นี่เราใช้บริการ Premium Speedboat Service ของ Sol Vacation ราคาคนละ 1,200 บาท (ไม่รวมค่าขึ้นเกาะขาม 200 บาท/คน) เรือใหม่เป็นส่วนตัว บนหาดส่วนตัว ที่สำคัญ น้ำทะเลของทั้งสองเกาะนี้คือใสมากๆ หาดทรายขาวนุ่ม ยกให้เป็น The Best ที่มาถึงเกาะช้างแล้วต้องห้ามพลาด!

Sea You Soon !
เกาะช้าง ครั้งเดียวไม่เคยพอ

บอกเลยว่า เกาะช้าง ครั้งเดียวไม่เคยพอ มากี่ครั้งก็เก็บที่เที่ยว ที่พัก ที่กิน และกิจกรรมบนเกาะไม่หมดจริงๆ ยังเหลืออีกหลายเกาะ หลายหาดที่สวยมากๆ ไม่แพ้กัน มีตกหมึก เดินเขา มีน้ำตกเย็นๆ ที่มีน้ำตลอดปี มีวัด มีกิจกรรมแอดเวนเจอร์สารพัด มีป่าชายเลนให้ล่องแพดูหิ่งห้อย มีร้านอาหาร คาเฟ่ดีๆ อีกเยอะ แถมที่นี่ยัง

 " เที่ยวได้ตลอดปี แค่มากันคนละเดือน คนละซีซั่น ก็ได้บรรยากาศของการพักผ่อนที่แตกต่างกัน เหมือนได้ประสบการณ์ใหม่ๆ อยู่ตลอดเวลา " 

เชื่อว่าใครที่มีโอกาสได้มาแล้ว อยากกลับมาอีกแน่นอน เพราะแม้ว่าช่วงไหนที่อาจมีคนพักเยอะบ้าง นักท่องเที่ยวดูหนาตาตอนก่อนข้ามเกาะ จนต้องต่อคิวรอขึ้นเรือข้ามเกาะกันนานหน่อย แต่เมื่อได้ข้ามมาที่เกาะแล้ว เหมือนเราได้หลุดมาอีกโลกใบหนึ่ง ที่สงบ ไม่วุ่นวาย และเป็นธรรมชาติมากๆ เหมือนกับทุกคน เลือกที่จะข้ามมาเพื่อพักผ่อน ผ่อนคลาย ปล่อยใจกับสายลม เสียงคลื่น แสงแดด และกลิ่นไอทะเล แบบพร้อมใจกันตัดขาดจากโลกภายนอกเลยทีเดียว

Tips : ใครจะมาแนะนำให้วางแพลนที่กินที่เที่ยวไว้เลย และเผื่อเวลาการเดินทาง โดยเฉพาะช่วงวันหยุดยาว คนจะขับรถมาต่อคิวขึ้นเรือเฟอรี่ข้ามเกาะกันเยอะมากๆ จนรถติดนาน 1-2 ชั่วโมง กว่าจะได้ข้ามเกาะ กว่าจะได้เข้าที่พัก ไปกิน ไปเที่ยว ตามที่แพลนกันไว้ อาจจะผิดแผนไปกันหมดได้

ฝากอีกเรื่องสำหรับคนที่ขับรถไปเอง ถนนบนเกาะค่อนข้างชัน และขับยากพอสมควร ต้องใช้ความระมัดระวังมากเป็นพิเศษ โดยเฉพาะช่วงหน้าฝน หรือขับตอนกลางคืน ใครที่ขับรถยังไม่ชำนาญ ไม่แนะนำน้า

จบทริปที่เราสนุกและประทับใจมากๆ ครั้งหน้าเราจะมีทริปไปเที่ยว ไปทัวร์ ที่ไหนกันอีก ฝากทุกคนติดตามกันด้วยน้าาา

ติดต่อจองห้องพัก และสอบถามรายละเอียดหรือโปรโมชั่นเพิ่มเติม ได้ที่
โทร. 086-325-7143 หรือ 039-552-800
Website : seaviewkohchang.com
Facebook : facebook.com/seaviewkohchang
Inbox : m.me/seaviewkohchang
E-mail : rsvn@seaviewkohchang.com

ติดต่อจอง Speedboat กับ Sol Vacation ได้ที่
โทร. 082-982-6228
Facebook : facebook.com/solvacationn
Inbox : m.me/solvacationn
เปิดบริการ : เฉพาะเสาร์-อาทิตย์ และวันหยุดยาว